Cryptocurrency มีเทคโนโลยีที่เรียกว่า Blockchain อยู่เบื้องหลัง
คำจำกัดความง่ายๆของ Blockchain!
การทำธุรกรรมทางการเงินนั้นทำโดยมีธนาคารกลางหรือสถาบันการเงินทำหน้าที่เป็นตัวกลาง ในขณะที่การทำธุรกรรมของเงิน Cryptocurrency บน Blockchain นั้นบริหารจัดการโดยผู้ใช้งานด้วยกันเองที่คอยสอดส่องดูแลกันและกันบนอินเตอร์เน็ต
Blockchain ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่ออะไร
กลุ่มผู้พัฒนาเงินเสมือนมีความคิดที่ว่าเราไม่สามารถเชื่อใจระบบเงินตราแบบเดิมที่มีธนาคารกลางและประเทศเป็นตัวกลางได้ เพราะถ้าผู้บริหารที่เป็นตัวกลางทุจริตหรือปลอมแปลงข้อมูลขึ้นมาเราจะไม่สามารถทำอะไรได้เลย ด้วยเหตุนี้เทคโนโลยี Blockchain จึงถือกำเนิดขึ้น และเกิดการพัฒนาระบบ Cryptocurrency ขึ้นมาเพื่อป้องกันการฉ้อโกงเงิน
Blockchain ทำงานอย่างไร?
ใน Blockchain ผู้ใช้งานจำนวนมากจะแลกเปลี่ยนข้อมูลการค้าขายของกันและกัน ในกรณีท่ีเกิดการทุจริตขึ้นซึ่งเป็นไปได้ยากมาก ผู้ใช้งานจะสามารถเข้าไปดูข้อมูลบันทึกของผู้ใช้งานคนอื่นและตรวจจับการทุจริตได้ทันที ทำให้เป็นระบบที่ยากต่อการฉ้อโกง
Block? Chain?
Block จะบันทึกข้อมูลการค้าขายในช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดย 1 Block บันทึกข้อมูลการค้าขายทุก ๆ 10 นาที เมื่อเชื่อม Block เข้าด้วยกันก็จะสามารถบันทึกข้อมูลการค้าขายทั้งหมดได้ตลอดเวลา เนื่องจากแต่ละ Block เชื่อมต่อกันเป็นโซ่ (Chain) ด้วยการเข้ารหัส ทำให้การเข้าไปแก้ไขข้อมูลการค้าขายภายใน Block ทำได้ยาก
ใช้กฎและระบบแทนตัวกลาง
ระบบเงิน Cryptocurrency ที่ใช้ Blockchain ไม่มีตัวกลางบริหาร แต่ว่ามีกฎเกณฑ์และระบบที่ป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริต โดยมีการจ่ายค่า incentive (mining) ให้แก่ผู้ใช้งานที่ร่วมมือในระบบ หรือกำหนดขีดจำกัดการออก Cryptocurrency ให้อย่างชัดเจน ทำให้ระบบสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องด้วยโปรแกรมนี้
ปลอดภัยแน่หรือ?
แม้ว่าเงิน Cryptocurrency (Bitcoin) จะเริ่มใช้มายังไม่ถึง 10 ปี แต่จนถึงตอนนี้ระบบก็ยังคงใช้งานได้อย่างต่อเนื่องโดยที่ไม่เคยล่มแม้แต่ครั้งเดียว
ที่มา: kaso-tsuka
ผู้แปล: Nudii